มูลนิธิกระจกเงา เผยอีกด้านในคืนเคอร์ฟิว ของคนไร้บ้าน
แต่เมื่อพูดถึงเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้าน หลายคนต่างสงสัย แล้วคนไร้บ้านหล่ะเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างไร? ทางด้าน มูลนิธิกระจกเงา ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับคนไร้บ้านในหลายๆพื้นที่ โดยเล่าไว้ว่า
คนไร้บ้านสูงอายุเดินกระย่องกระแย่งออกไปพ้นจากชายขอบของพื้นที่ จุดหมายคือป้ายรถเมล์ ไม่นานที่นั่งป้ายรถก็เต็มไปด้วยคนไร้บ้าน เสียงพูดออกลำโพงของตำรวจดังจากอีกเกาะหนึ่งของอนุสาวรีย์ เตือนให้คนเตรียมตัวกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด
คนไร้บ้านชายหนุ่ม คนไร้บ้านชราสายตาเหม่อมองไปที่ไฟไซเรนของตำรวจฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอีกไม่นานเขาก็จะมาจอดที่ตรงหน้า และไล่ตะเพิดเขาออกไปจากที่นั่งป้ายรถเมล์ ไล่ออกไปโดยไม่ต้องสนใจว่าเขาจะไปที่ไหน ชีวิตมีปัญหา แต่ร่างกายนั้นไม่ได้สื่อออกมาทางสายตาว่าหวาดกลัว ร่างกายไม่ได้สั่นเทาใดๆ ไม่มีอาการผุดลุกผุดนั่ง
เราได้แต่โทรไปประสานงานกับหน่วยงานที่เพิ่งได้ประชุมกันไปเมื่อเช้า ประชุมเรื่องกระบวนการช่วยเหลือพวกเขาพวกคนไร้บ้าน หน่วยงานนั้นส่งรถ และคนมา รถ และคนที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเตรียมพร้อมไว้ใช้สำหรับงานโรคระบาดเอาซะเลย ผู้คนยังถูกยัดทะนานเข้าไปประมาณ 5 คน
ชายทั้ง 5 ส่วนใหญ่สูงอายุ สายตาของคนอื่นๆ ที่หนุ่มกว่าเริ่มมองมาแบบมีคำถามว่า เขาจะได้ไปหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานร้องขอว่า ขอรอบเดียวพอนะ เพราะที่นั้นก็เต็มแน่นแล้ว เราเข้าใจทันที...
รถคันสีชมพูเดินทางออกจากป้ายรถเมล์ไป ชายไร้บ้านที่เหลือถามเราว่า แล้วเขาต้องทำอย่างไร ตำรวจเขาจะจับพวกเราหรือไม่ ชายคนหนึ่งพูดแทรกเพื่อนขึ้นมาว่า "ไม่เป็นไร เราน่าจะเอาตัวรอดกันไปได้ อะไรแบบนี้ใช่ว่าไม่เคยผ่านซะเมื่อไหร่"
สิ้นประโยคบอกเล่า ชายหนุ่มคนเดิมขึ้นประโยคร้องขอตามทันที "ถ้าพี่มีที่อยู่ให้พวกเราได้อยู่ช่วงนี้ มาบอกพวกเราด้วยนะ" เราได้แต่รับปากด้วยเสียงดังๆพอให้เขาได้มั่นใจ
เราได้แค่สัญญาอย่างรู้ตัวในความเล็กกระจ้อยของตัวเอง "เราจะทำสุดความสามารถให้พี่มีที่อยู่ปลอดภัยให้ได้ในช่วงนี้" พวกเขายิ้มแห้งๆ แต่ไม่ลืมบอกคำว่าขอบคุณมากๆ นะพี่ ออกมา
#COVID19 #โควิดกับคนไร้บ้าน
#เพราะมนุษย์ไม่ควรอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้
#โครงการผู้ป่วยข้างถนน