นพ.แนะนำ เรื่องอาหารช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก!?!
ในวันที่ 5 เม.ย. 63 ทางด้าน นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา ได้ให้ความรู้ผ่านเพจสาธารณะชื่อ FB.ความรู้สนุก ๆ แบบหมอแมว เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องอยู่บ้านเป็นระยะเวลานาน ในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แบบนี้นี่เอง โดยได้แจกแจงรายละเอียดไว้ดังต่อไปนี้
หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน ไปจนถึงความจำเป็นอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหารและดื่มน้ำ แล้วเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นจึงขอรวบรวมวิธีการที่สามารถนำมาใช้ได้ในช่วงนี้กัน
1.กินอาหารให้ตรงเวลา คนที่เคยทำงานทุกวัน สิ่งที่ทำให้กินอาหารตรงเวลาคือ ตารางการทำงานและการไปกินของเพื่อนร่วมงาน พออยู่บ้านแล้วไม่ชินก็เลยกินไม่ตรงเวลามาก ๆ ถ้าเลื่อนไปไม่กี่ชั่วโมงอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื่อนหลายชั่วโมง ไปกินตอนดึก ๆ อาจจะรบกวนการนอนได้ หรือในคนที่เป็นโรคกระเพาะก็อาจจะปวดท้องได้
2.ดื่มน้ำเป็นระยะ เวลาอยู่บ้าน บางครั้งความรู้สึกสบาย ๆ ทำให้ดื่มน้ำน้อยลง พอเพลีย ๆ จากการขาดน้ำก็อาจจะไปเอนหลังหรือพักได้มากกว่าตอนอยู่ที่ทำงาน ทำให้เกิดการขาดน้ำได้ง่าย (เห็นชัดหน่อยในกรณีมีเครื่องปรับอากาศ พอเพลีย ๆ ขาดน้ำแต่แอร์มันเย็น เลยไม่รู้สึกว่าต้องการน้ำเท่าไหร่)
3.ระวังของหวานของมัน ช่วงนี้เครียด ๆ กัน ความอยากอาหารหวานมันเพื่อลดความเครียดจะมากขึ้น
4.เช็กวันหมดอายุของอาหาร ความที่อาจจะต้องอยู่กับบ้านไม่ได้ไปไหน บางคนต้องซื้อของมาตุนไว้พร้อม ๆ กัน และอาจจะเกิดปัญหาของหมดอายุก่อนกินได้ ดังนั้นควรเช็ควันที่หมดอายุ กินของที่จะหมดอายุให้หมดก่อนแล้วค่อยไปกินของที่เก็บได้นานทีหลัง รวมถึงการแช่เย็นของที่เสียได้ไว้ในตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งอย่างเหมาะสม
5.อุ่นอาหารก่อนรับประทาน บางคนไม่อยากทำอาหารทุกมื้อ ก็เลยทำมื้อเดียววางตั้งโต๊ะไว้ทั้งวัน ซึ่งอาจจะต้องระวังเรื่องความสะอาด ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้ ถ้าทำตั้งทิ้งไว้อาจจะเสี่ยงอาหารบูดได้ แนะนำให้อุ่นอาหารทุกมื้อ หรือไม่ก็ทำหม้อใหญ่เก็บใส่ตู้เย็น จากนั้นนำมามอุ่นกินเป็นมื้อ ๆ เอาจะปลอดภัยกว่า
6.อาหารกระป๋อง แนะนำว่าควรปรุงสุกเสียก่อน
7.ระมัดระวังการกินจุบจิบ เวลาอยู่บ้านนาน ๆ แล้วเกิดเบื่อหรือไปเห็นของที่ซื้อมาตุนไว้ บางคนอาจจะเกิดอาการอยากกินของจุบจิบ กลายเป็นได้กินขนม หรืออาหารโดยที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น