หนุ่มโพสต์ รีวิว เกณฑ์ทหาร 1ปีที่รู้สึกสูญเปล่า
เป็นโพสต์ที่โลกโซเชียลแชร์กันอย่างหนักในช่วงสอง-สามวันที่ผ่านมา กับข้อความของชายหนุ่มที่เพิ่งผ่านการเกณฑ์ทหาร และเขียนรีวิวถึงชีวิตในรั้วทหาร โดยขึ้นต้นประโยคว่า หมดสิ้นเวรกรรมซักทีนะ พร้อมตบท้าย ถึงเวลาการยกเลิกเกณฑ์ทหารแล้ว
โดยโพสต์ดังกล่าว เล่าถึงประสบการณ์ที่ต้องเข้าไปเป็นทหาร และต้องเจอกับสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆนาๆระบุว่า
โดยโพสต์ดังกล่าว เล่าถึงประสบการณ์ที่ต้องเข้าไปเป็นทหาร และต้องเจอกับสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆนาๆระบุว่า
...วันนี้เมื่อปีที่แล้วต้องเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ ทำให้ต้องทิ้งทุกอย่างตรงหน้าและเข้าไปอยู่ในค่ายและทำการ รับใช้ชาติ ให้ครบตามเวลาที่กำหนดไว้ ตอนนั้นเลือกที่จะบอกคนรอบข้างเท่าที่จำเป็นว่าต้องไปเพราะไม่รู้ว่าบอกไปแล้วจะเป็นผลดีหรือผลร้ายมากกว่ากัน วันนี้ที่เรื่องมันจบสิ้นแล้วเลยมาบอกให้รู้ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่ค่อยว่างไปหาเพื่อนนะ
เป็น1 ปีที่น่าจะตกต่ำที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาในทุกๆด้านทุกมิติเลย ที่เริ่มตั้งแต่ต้องออกจากงานที่ทำอยู่แล้วกำลังไปได้ดีด้วย และพลาดโอกาสดีๆที่เข้ามาในชีวิตตลอด 1 ปี 7 เดือนที่ผ่านไปนั้น(เกณฑ์ตั้งแต่เมษา 62 โดนผลัด 2 ต้องไปตอนพฤศจิกา ระหว่างนั้น 7 เดือนก็ย้ายงานไปที่ที่ดีกว่าเดิมที่มีเพื่อนมาชวนไปทำไม่ได้)ด้วยเหตุผลที่ว่าติดทหาร และพอเริ่มเข้าไปก็ต้องเจอการฝึกพื้นฐานทางทหารนาน 10 สัปดาห์ที่เต็มไปด้วยเรื่องแย่และบั่นทอนจิตใจมากมาย
ซึ่งเป็นการฝึกที่ทั้งเหนื่อยทั้งทรมานที่เต็มไปด้วยเรื่องไร้เหตุผลและการฝึกที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต่อการเป็นทหารอย่างที่เคยเข้าใจไว้เลย และในตลอด 10 สัปดาห์นี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถสรุปได้เป็นข้อความสั้นๆภายในโพสต์นี้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปจนได้ แต่หลังการฝึกมันก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องบั่นทอนจิตใจมากมายอยู่ดี ตลอด1ปีที่ผ่านมาที่ได้เจอกับสังคมผู้คนที่แปลกใหม่ เจอกับความคิดแปลกๆทัศนคติแปลกๆจากสภาพแวดล้อมใหม่นี้ เจอความท้าทายที่ต้องพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ให้ได้
กลุ่มคนที่โดนบังคับเข้ามาอยู่ด้วยกันซึ่งมากกว่า50%เรียนจบมาแค่ประถม หลายคนมีลูกแล้ว(บางคนมีแล้ว3) มีไม่น้อยที่เคยใช้ยาเสพติดหรือเคยติดคุก ซึ่งทำให้มันยากเข้าไปใหญ่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับพวกเขาและคุยกันให้รู้เรื่อง โชคดีหน่อยที่ถูกดึงตัวให้ไปทำงานฝ่ายเอกสารเนื่องจากเรียนสูงกว่าชาวบ้านเขาและอ่านออกเขียนได้ใช้คอมเป็น(หาคนเป็นยากมาก) ทำให้ไม่ได้เจอกับการใช้แรงงานมากมายอย่างที่คนอื่นเจอ(แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่โดนใช้แรงงานเลยนะ) ส่วนพวกหมู่จ่าที่ต้องเจอก็เต็มไปด้วยทัศนคติแปลกๆไม่แพ้พลทหารเช่นกัน และแม่งทำให้อะไรหลายๆอย่างยากขึ้นไปอีกมากเลย
ตลอด1ปีที่เสียไปนั้นเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่มากมายซึ่งส่วนมากจะเป็นเรื่องแย่เกือบทั้งหมด เป็น1ปีที่ไม่ได้รู้สึกถึงการรับใช้ชาติเลยแม้แต่น้อย เว้นเสียแต่ว่าคุณนิยามว่า ‘ชาติ = ค่ายทหาร' เพราะเจอแต่งานการเก็บกวาดพื้นที่ในค่ายให้เรียบร้อยที่ไม่จบไม่สิ้น และงานเอกสารที่ต้องทำก็โคตรจะbullshitเลย
บางทีก็มีคำถามขึ้นมาในหัวว่า เกณฑ์กูมาเพื่อเดินส่งเอกสารเบิกค่าเทอมให้ลูกจ่าที่ไหนไม่รู้เนี่ยนะ แล้วพอเห็นเงินเดือนที่ได้ยิ่งหดหู่กับชีวิตไปใหญ่ เพราะได้น้อยลงกว่างานที่ทำ4เท่าได้ เจอกับการถูกเพ่งเล็งและหาเรื่องเพียงเพราะรู้ว่าเรียนจบจุฬา และด้วยความไม่รู้ของคนอื่นว่าที่เรียนจบมานั้นเกี่ยวกับอะไรก็ทำให้เจอกับอะไรชวนปวดประสาทมากกว่าที่คิดซึ่งมันน่าหงุดหงิดมากๆเลย ถ้าไม่ต้องมาเป็นทหารคงไม่ได้เจอประสบการณ์แย่ๆในชีวิตเยอะขนาดนี้หรอก
สุดท้ายนี้ก็คงไม่ขอขอบคุณกองทัพบกและหน่วยที่อยู่นะครับเพราะรู้สึกว่าเสียอะไรไปมากกว่าสิ่งที่ได้มาเยอะมากเลย และก็ไม่ขอบคุณตัวเองที่ทนกับอะไรที่ต้องเจอมาตลอด 1 ปีมาได้แล้วกันเพราะรู้สึกว่าล้มเหลวกับการจัดการอารมณ์ต่อเรื่องปสดนี่เยอะเกินไปและน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ขอขอบคุณครอบครัวและคนรอบตัวทุกคนที่ยอมทนฟังเราระบายเรื่องเหี้ยๆที่เจอให้ฟังเพื่อไม่ให้บ้าตายไปก่อนจะปลดนะทั้งที่เต็มใจฟังหรือไม่เต็มใจก็ตาม และขอขอบคุณ youtube music กับวงดนตรีทุกวงที่ได้เปิดฟังเพื่อประคับประคองจิตใจให้ผ่านช่วงแย่ๆไปได้
เป็น 1 ปีที่รู้สึกสูญเปล่าและน่าเสียดายมากครับ อาชีพทหารจำเป็นต้องมีต่อไป แต่ส่วนของทหารเกณฑ์นั้นไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้ถ้าจะเกณฑ์ให้ไปทำอะไรแบบนี้
Now I'm the happiest unemployed person
#GetBackToLife
#ยังว่างอยู่แนะนำงานมาได้ครับ
#งดแซวเรื่องทรงผมนะครับ
#เป็นทหารสูญเสียอะไรมากกว่าที่คิด
#ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น