อ.เจษฎา ชี้!แก๊สน้ำตายิงม็อบ คือตัวเดียวที่ใช้กับ กปปส. อันตรายถึงชีวิตได้
cs gas ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อประสาทสัมผัส (sensory nerve) ที่เนื้อเยื่อผิวที่มีเมือก (mucous membrane) ของตา จมูก คอ และกระเพาะอาหาร
- ผลต่อดวงตา ทำให้เกิดการระคายเคืองสูง น้ำตาไหลพราก ตาแดง ปวดตา กระพริบตามากอย่างควบคุมไม่ได้
- ผลต่อจมูกและปาก ทำให้เกิดอาการเจ็บแสบไหม้ น้ำมูกไหลพราก
- ผลต่อทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ จาม มีสารคัดหลั่งที่หลอดลมเพิ่มขึ้น แน่นหน้าอก
- ผลต่อทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องร่วง
- ผลต่อผิวหนังทำให้เกิดอาการแสบไหม้ บวม ผื่นแดง พอง (เกิดได้ง่ายโดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูง
'ผลจาก CS gas สามารถลดลง และหายไปได้เองเมื่อหยุดรับสาร แต่ CS gas สามารถทำให้เสียชีวิตได้จากการเกิดขาดออกซิเจน ในกรณีที่ผู้ได้รับสารไม่สามารถออกจากบริเวณดังกล่าว'
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผู้ป่วยที่โดนแก๊สน้ำตา
- ทำการลดการปนเปื้อนของสาร (decontamination) คือ พาผู้ป่วยออกไปยังที่อากาศถ่ายเทสะดวก
- ถอดหรือตัดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารออก (เสื้อผ้าที่ปนเปื้อน ควรใส่ถุงพลาสติกปิดปากถุง)
- ผู้ที่มีอาการระคายเคืองของดวงตา ควรทำการล้างด้วยน้ำเปล่าหรือสารละลายน้ำเกลือ (normal saline solution) จนหายแสบตา
- ผู้ป่วยที่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ต้องถอดออก และไม่ให้ผู้ป่วยขยี้ตาเด็ดขาด (ห้ามใช้ผ้าชุบน้ำ มาปาดตาด้วย)
- การทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ เนื่องจาก CS มีสมบัติในการละลายน้ำได้ บางคนจึงเชื่อว่าอาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น (ถ้ามีการถูสบู่)
- มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น Diphoterine แต่เนื่องจากราคาที่สูง จึงยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย ปัจจุบันจึงยังคงให้ล้างด้วยน้ำ'