‘ฟอร์ด’รำลึก 1 ปีจูบกลางสภาทวงสิทธ์LGBT ชี้วันนี้ไปไม่ถึงไหน
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล เป็นข่าว ‘ฟอร์ด’รำลึก 1 ปีจูบกลางสภาทวงสิทธ์LGBT ชี้วันนี้ไปไม่ถึงไหน
นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความรำลึก 1 ปีการเหตุการณ์จูบที่รัฐสภาภายหลังยื่นหนังสือเกี่ยวกับข้อเสนอของภาคประชาสังคม เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อการคุ้มครองการสมรสในครอบครัวเพศหลากหลาย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562
ระบุ
จูบแรกที่รัฐสภาของผมและ @JamesPanumas เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 พวกเราโดนด่าหนักมาก 1 ปีผ่านไปแม้จะโดนด่าน้อยลง แต่สิทธิและความเท่าเทียมทางเพศตามกฎหมายก็ยังไม่เกิดขึ้นจริงในประเทศนี้ #จูบกลางสภา
ระบุ
จูบแรกที่รัฐสภาของผมและ @JamesPanumas เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 พวกเราโดนด่าหนักมาก 1 ปีผ่านไปแม้จะโดนด่าน้อยลง แต่สิทธิและความเท่าเทียมทางเพศตามกฎหมายก็ยังไม่เกิดขึ้นจริงในประเทศนี้ #จูบกลางสภา
นายทัตเทพ ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ตนและ ‘เจมส์' ซึ่งเป็นคนรัก ได้เข้าไปร่วมกับกลุ่มภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ แห่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการพิจารณาแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มีสิทธิตามกฎหมายอย่างเสมอภาคกับชายหญิงทั่วไป เช่น การสมรส การรับบุตรบุญธรรม เป็นต้น โดยในวันนั้นได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการจูบเพื่อประท้วงความไม่เป็นธรรมทางเพศที่ทำให้ LGBTQ+ เป็นพลเมืองชั้นสองผู้ไร้ซึ่งสิทธิที่ควรจะได้รับความคุ้มครองอย่างเท่าเทียมและ่ถูกเลือกปฏิบัติเพียงเพราะไม่ได้มีเพศสภาพหรือเพศวิถีตามขนบหรือจารีตดั้งเดิม
แน่นอนว่าการจูบในครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายกรอบความคิดแบบอนุรักษ์นิยมทั้งในเรื่องการตีตราว่า LGBTQ+ เป็นผู้ที่ผิดปกติทางเพศ และ การแสดงออกซึ่งความรักที่เรามักถูกสอนให้ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนจำนวนมากบอกว่าการกระทำของเรานั้นผิดกาลเทศะ แต่สำหรับผมและเจมส์การแสดงออกเพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศตามกฎหมายนั้น ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่ารัฐสภาแล้ว เพราะ รัฐสภาเป็นที่ทำงานของผู้แทนราษฎรที่ประชาชนให้ความไว้วางใจให้ไปใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน จึงถือเป็นสถานที่ซึ่งแทนสัญลักษณ์ทางอำนาจของประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดและมีสิทธิในการเรียกร้องความเท่าเทียมซึ่งถือเป็นหนึ่งในคุณค่าสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น การจูบเพื่อประท้วงไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ต้องกล่าวคำขอโทษใด ๆ แต่ควรยืนยันว่าเป็นสิ่งที่กระทำได้
จนถึงวันนี้ซึ่งเวลาล่วงเลยไป 1 ปีแล้วสิทธิของ LGBTQ+ ยังไม่คืบหน้าไปไหน อีกทั้งรัฐบาลยังพยายามผลักดันร่างพรบ.คู่ชีวิตซึ่งไม่ใช่ การสมรสเท่าเทียม เข้าสภาทั้ง ๆ ที่ก็รู้กันดีว่าเป็นร่างพรบ.ที่ตอกย้ำความเป็นพลเมืองชั้นสองของ LGBTQ+ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศรับรู้ว่าไม่อาจฝากความหวังและความไว้วางใจให้กับรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจและไร้วิสัยทัศน์ในการผลักดันวาระที่ก้าวหน้าได้อีกต่อไป
เครดิตแหล่งข้อมูล : twitter@fordtattepRuang ,matichon.co.th
แน่นอนว่าการจูบในครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายกรอบความคิดแบบอนุรักษ์นิยมทั้งในเรื่องการตีตราว่า LGBTQ+ เป็นผู้ที่ผิดปกติทางเพศ และ การแสดงออกซึ่งความรักที่เรามักถูกสอนให้ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนจำนวนมากบอกว่าการกระทำของเรานั้นผิดกาลเทศะ แต่สำหรับผมและเจมส์การแสดงออกเพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศตามกฎหมายนั้น ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่ารัฐสภาแล้ว เพราะ รัฐสภาเป็นที่ทำงานของผู้แทนราษฎรที่ประชาชนให้ความไว้วางใจให้ไปใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน จึงถือเป็นสถานที่ซึ่งแทนสัญลักษณ์ทางอำนาจของประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดและมีสิทธิในการเรียกร้องความเท่าเทียมซึ่งถือเป็นหนึ่งในคุณค่าสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น การจูบเพื่อประท้วงไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ต้องกล่าวคำขอโทษใด ๆ แต่ควรยืนยันว่าเป็นสิ่งที่กระทำได้
จนถึงวันนี้ซึ่งเวลาล่วงเลยไป 1 ปีแล้วสิทธิของ LGBTQ+ ยังไม่คืบหน้าไปไหน อีกทั้งรัฐบาลยังพยายามผลักดันร่างพรบ.คู่ชีวิตซึ่งไม่ใช่ การสมรสเท่าเทียม เข้าสภาทั้ง ๆ ที่ก็รู้กันดีว่าเป็นร่างพรบ.ที่ตอกย้ำความเป็นพลเมืองชั้นสองของ LGBTQ+ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศรับรู้ว่าไม่อาจฝากความหวังและความไว้วางใจให้กับรัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจและไร้วิสัยทัศน์ในการผลักดันวาระที่ก้าวหน้าได้อีกต่อไป
เครดิตแหล่งข้อมูล : twitter@fordtattepRuang ,matichon.co.th
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น