สรุปดราม่าเดือด! อาจารย์ มช. ไฝว้คณบดี ยึดงานศิลป์ นศ.ใส่ถุงดำ

กลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์แห่แชร์ และรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีของ
คณบดีและผู้บริหารคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าไปรื้อเก็บงานศิลปะจัดวางของนักศึกษากลุ่มหนึ่งลงในถุงขยะ

โดย เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม ม.เชียงใหม่ ซึ่งกำลังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาที่บริเวณหน้าลานหอศิลป์

มีกลุ่มบุคคลประมาณ 5 คน เข้ามารื้อผลงานศิลปะของนักศึกษา แล้วเอาใส่ถุงดำขึ้นรถบรรทุกของคณะวิจิตรศิลป์ เตรียมขนย้ายไปที่อื่น โดยไม่มีการแจ้งเหตุผลและไม่มีเอกสารชี้แจงใด ๆ

ซึ่งนักศึกษาพยายามบอกว่านี่เป็นงานที่พวกเขาจัดแสดงและต้องส่งอาจารย์ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่รับฟัง ยังคงขนย้ายต่อไป ก่อนที่จะมีหญิงคนหนึ่งในกลุ่ม บอกนักศึกษาว่า "เดี๋ยวคุณไปหาเอาเอง ว่าคุณกำลังคุยกับใครอยู่นะคะ" ทราบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ต่อมาทราบว่ากลุ่มบุคคลทั้งหมดเป็นบุคลากรของคณะวิจิตรศิลป์เอง มีตั้งแต่คณบดี รองคณบดีฝ่ายบริหาร รองคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพนักศึกษา เลขานุการคณะ และเจ้าหน้าที่หอศิลป์

สรุปดราม่าเดือด! อาจารย์ มช. ไฝว้คณบดี ยึดงานศิลป์ นศ.ใส่ถุงดำ

เมื่อการขนย้ายยังดำเนินต่อไป นักศึกษาคนหนึ่งจึงลงไปนอนบนพื้นเพื่อขวางรถของผู้บริหารคณะเอาไว้ ซึ่งมีนักศึกษาคณะนิติศาสตร์มาสอบถามและบอกว่าทำแบบนี้โดยพลการไม่ได้ ถือว่าผิดกฎหมาย แต่กลุ่มบุคลากรบอกว่าไม่ขอคุยด้วย เพราะไม่ใช่นักศึกษาวิจิตรศิลป์

และท่ามกลางความชุลมุน มีชายเสื้อขาวคนหนึ่งปรากฏตัวและถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบภายหลังว่าคือ "ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี" อาจารย์สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อาจารย์ทัศนัยได้เข้าไปสอบถามกลุ่มบุคลากร และพยายามขอคำอธิบายว่าทำไมจึงมารื้องานจัดแสดงศิลปะของนักศึกษา แต่กลุ่มบุคลากรพากันเดินหนี อาจารย์กับเด็กๆ ก็เดินตามไปพลาง ไลฟ์เฟซบุ๊กไปพลาง ในระหว่างนี้อาจารย์ทัศนัยได้พูดจาโต้ตอบกับกลุ่มบุคลากรอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งต่อมาคำพูดต่างๆ ของอาจารย์ได้กลายเป็นโควตที่ถูกนำมาเผยแพร่ต่อในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง อาทิ

'เป็นอาจารย์ด้วยกันใช่มั้ย รักเคารพศิลปะมั้ย รักเคารพในมนุษย์มั้ย ศิลปะไม่เป็นเจ้านายใคร และไม่เป็นขี้ข้าใคร'

'หน้าที่ของครูอาจารย์ คือรักลูกศิษย์ ปกป้องลูกศิษย์ และพิทักษ์ผลงานศิลปะ คนเรามักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีอำนาจบาตรใหญ่ เป็นกันทุกคน ถ้าห้ามใจไม่ได้ก็เหมือนหมาตัวนึง'

'อย่าทำอย่างนี้อีก ศิลปะอับอายมามากพอแล้ว เพราะไอ้คนที่มันไม่รักเสรีภาพแบบนี้'

'ทำงานศิลปะอยู่รึเปล่าทุกวันนี้ น่าอายมั้ย ทำไมกระจอกตั้งแต่เด็กจนโตพวกมึงเนี่ย'

'เป็นอาจารย์ศิลปะต้อง 1. เคารพคน 2. เคารพศิลปินด้วยกัน 3. เคารพผลงานศิลปะ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจากนักศึกษาหรือคนที่ไม่ได้เรียนศิลปะ รู้จักเคารพมันมั่ง หมาแมวก็เคารพมันด้วย'

โดยบุคลากรคณะอ้างว่าเรื่องวันนี้เกิดจากความเข้าใจผิด นึกว่างานศิลปะเหล่านี้เป็นขยะที่ต้องเก็บ เพราะดูรกและสกปรก จะให้เจ้าหน้าที่เอากลับไปวางไว้ที่เดิม แต่อาจารย์ทัศนัยไม่เชื่อว่าเป็นการเข้าใจผิด และตั้งคำถามกลับว่า เวลาเราไปหอศิลป์ เป็นไปได้หรือที่เราจะเก็บผลงานในหอศิลป์มาทิ้ง แล้วอ้างว่านึกว่าขยะ แล้วยังตั้งคำถามร้อนแรงอีกหลายคำถาม เช่น

- ขู่เข็ญคุกคามนักศึกษามากี่ทีแล้ว
- นี่เป็นสมบัติส่วนตัวของเด็ก เขาเพิ่งแสดงวิทยานิพนธ์เสร็จ คุณเป็นนักการภารโรงเหรอถึงมาเก็บกวาดให้เขา เป็นหน้าที่อะไรของคณบดีต้องมาเดินเก็บงานศิลปะ ให้เอาเวลาไปเก็บกวาดบ้านตัวเอง
- งานศิลปะมันรกได้ไหม หรืองานศิลปะมันต้องสุภาพเรียบร้อยเหมือนนายธนาคาร
- ศิลปินที่เป็นอาจารย์ผู้สอน ต้องสอนให้นักศึกษามีเสรีภาพ มีจิตสำนึก หาวิถีทางใหม่ ๆ ในการทำงานศิลปะ ไม่ใช่เดินเข้ามาในหลักสูตรแล้วบอกว่าขยะ สิ่งที่เห็นอยู่เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากผลงานศิลปะ

จากนั้นบุคลากรคณะได้ขนงานศิลปะลงจากรถคืนให้นักศึกษา แต่นักศึกษายังเรียกร้องให้ชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบ บุคลากรก็บอกว่าจะทำหนังสือชี้แจงในภายหลัง

ก่อนที่ในเวลาต่อมานักศึกษาได้สำรวจผลงานศิลปะและพบว่าบางส่วนได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์บุคคลทั้ง 5 ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และใช้อำนาจปกครองโดยไม่ชอบ

ล่าสุด สภานักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ ขอให้ชี้แจงเรื่องการรื้อถอนงานศิลปะของนักศึกษา พร้อมตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณของอาจารย์