เพราะเหตุนี้ คนไทย ไม่กล้าฉีดวัคซีนโควิด แม้แต่จนท.สธ.ยังกลัว
คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่กล้าฉีดวัคซีน เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะครับ ตัวเลขจำนวนผู้สมัครใจลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน "หมอพร้อม" ของอำเภอจะนะ มีจำนวนน้อยมาก เชื่อว่าทุกอำเภอมีลักษณะคล้ายกัน มาดูตัวเลขของอำเภอจะนะกัน โรงพยาบาลจะนะ เปิดรับฉีดวัคซีนวันละ 360 ราย ปรากฏว่าตั้งแต่เปิดระบบมา มีผู้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมเพียง 232 ราย ซึ่งน้อยมากๆ
วันที่ 30 เม.ย 64 ลงทะเบียน จำนวน 1 ราย
วันที่ 1 พ ค 64 จำนวน 67 ราย
วันที่ 2 พ.ค. 64 จำนวน 36 ราย
วันที่ 3 พ.ค. 64 จำนวน 25 ราย
วันที่ 4 พ.ค. 64 จำนวน 23 ราย
วันที่ 5 พ.ค. 64 จำนวน 29 ราย
วันที่ 6 พ.ค. 64 จำนวน 45 ราย
วันที่ 7 พ.ค. 64 จำนวน 6 ราย
รวมยอดจองจากหมอพร้อม 232 ราย
อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังกลัวๆ ทั้งนี้ผมเชื่อว่าความกลัววัคซีนของคนไทยนั้น เกิดจากเหตุ 2 ประการ
1. เป็นเพราะในช่วงที่เราขาดแคลนวัคซีน วัคซีนมาช้า รัฐบาลปล่อยให้มีการปล่อยข่าวผลข้างเคียงของวัคซีนมากเกินกว่าความจริง โดยไม่มีการแก้ข่าวชี้แจง ข่าวอันน่ากลัวของวัคซีนส่งกันไปทั่ว เหมือนกับว่าเพื่อลดความต้องการการฉีดวัคซีนในน้อยลง รัฐบาลจะได้ไม่ถูกต่อว่านินทามากเกินไปในช่วงไม่มีวัคซีน เมื่อมีการตอกย้ำผลลบของวัคซีนต่อเนื่อง จนฝังเข้าไปเป็นความเชื่อของผู้คน จึงยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาสมัครใจฉีดวัคซีนกันในปัจจุบัน
2. ข่าวการเข้ามาของวัคซีนหลายยี่ห้อก็มีส่วนมากในการชะลอการลงทะเบียนฉีด เพราะส่วนหนึ่งผู้คนโดยเฉพาะในเขตเมืองอยากมีการเลือกยี่ห้อ จึงขอรอดูก่อน แน่นอนว่าวัคซีนแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียต่างกัน รัฐบาลจึงควรประกาศให้ชัดเจนว่า วัคซีนที่ได้มานั้น กลุ่มไหนจะได้รับยี่ห้อไหน อาทิ กลุ่ม 12-18 ปีจะได้รับวัคซีนpfizer กลุ่มอายุมากหน่อยเช่นมากกว่า 50 ปีและกลุ่มโรคเรื้อรังจะได้รับวัคซีนastra และกลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ใช่สองกลุ่มนั้นจะได้รับวัคซีนsinovac เป็นต้น ความชัดเจนไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะทำให้คนเลิกรอ ตัดสินใจสมัครลงทะเบียนมากขึ้น
การแก้ปัญหาผู้คนไม่กล้าฉีดวัคซีน เป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลครับ แต่ยังไม่เห็นการจัดการอย่างเป็นระบบ เรื่องนี้โรงพยาบาลต่างๆทำเต็มที่ แต่นี่ไม่ใช่ภารกิจของโรงพยาบาลแต่ละแห่งเท่านั้น มิเช่นนั้น การฉีดวัคซีนของประเทศไทยก็จะล่าช้าอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
ปล.ขอขอบคุณ ภาพสวยจากช่างภาพเนชั่น