สรุปดราม่า #นิติจุฬา ร้อนแรงติดเทรนด์อันดับ 1 เปิดกลุ่มแชตคุยสุดหื่น

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างอยู่บนโลกออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา ภายหลังชาวเน็ตจำนวนมากพากันติดแฮชแท็ก #นิติจุฬา จนทำให้แฮชแท็กดังกล่าวถูกพูดถึง และทยานสู่เทรนด์อันดับ1 บนโลกทวิตเตอร์ ซึ่งแฮชแท็กดังกล่าวเป็นเรื่องราวของเด็กชายกลุ่มหนึ่งสอบติด คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ซึ่งมีคนสร้างกรุ๊ปแชตไลน์เพื่อดึงเพื่อนๆ ผู้ชายที่สอบติดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยกัน มาเข้ากลุ่มกว่า 60 คน โดยในกลุ่มจะมีแกนนำประมาณ 3-4 คนชวนพูดคุยเรื่องส่องหญิง เอารูปหญิงสาวจากคณะต่างๆ มาลง พร้อมข้อความที่มีลักษณะคุกคาม ทั้งทางเพศและสิทธิส่วนบุคคล นอกจากนี้ กลุ่มเด็กชายบางคนได้แฝงเข้ากลุ่มน้องใหม่คณะอื่นๆ และจะเข้าไประยะหนึ่งเพื่อบันทึกรูปในกลุ่ม แล้วออกจากกลุ่ม พร้อมนำรูปเหล่านั้นมาแสดงความคิดเห็นต่อในกลุ่มชายล้วน ซึ่งเด็กๆ คณะอื่นพอทราบเรื่อง ทัวร์เลยลงมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นขึ้นมาทันที หลังจากมีคนแคปแชตดังกล่าวมาแฉในโลกทวิตเตอร์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จนทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากพากันติดแฮชแท็กกันอย่างร้อนแรง พร้อมทั้งวิจารณ์กลุ่มแชตไลน์ดังกล่าว และกดดันให้ทางคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ให้ออกมาเคลื่อนไหว

 

จนสุดท้ายเมื่อเวลา 01.00 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ด้วยความปรากฏต่อคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า นักเรียนชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเพิ่งผ่านการสอบคัดเลือก เพื่อเข้าเป็นนิสิตใหม่ในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ประจำปีการศึกษา 2564 ได้กระทำการอันไม่เหมาะสมซึ่งมีลักษณะล่วงละเมิดต่อความเป็นส่วนตัวและอาจเข้าข่ายพฤติการณ์ล่วงเกินทางเพศ ผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ต่อนิสิตคณะอื่น

คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อนิสิตที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมยิ่งของนักเรียนกลุ่มดังกล่าวซึ่งอาจจะเข้ามาเป็นนิสิตใหม่ในความดูแลของคณะนิติศาสตร์ ทั้งนี้ คณะนิติศาสตร์มิได้นิ่งนอนใจ จะเร่งสอบหาข้อเท็จจริง และดำเนินการต่อไปโดยเร็ว  รวมทั้งจะได้ประสานงานและติดตามรายงานความคืบหน้ากับคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ เด็กชายบางคนที่อยู่ในกลุ่มแชตไลน์ดังกล่าวระบุว่า "ตนไม่ได้รู้เรื่องว่าคุยอะไรกัน เพราะมันเป็นเหมือนกรุ๊ปที่ดึงๆกันเข้าไปตอนสอบติด เพิ่งมาไล่อ่านตอนเป็นประเด็น"  บ้างก็พิมพ์ข้อความขอโทษที่ไม่ได้ห้ามปราม ซึ่งกระแสที่ตามมาคือ ผู้ชายในกลุ่มนั้นโดนกระแสสังคมบางส่วนด่าด้วยว่าทำไมไม่ห้าม ผู้ชายคณะนิติโดนชาวเน็ตบางส่วนเหมารวมว่าเป็นแบบนี้กันหมด