ทำความรู้จัก! มิ้นท์-มณฑล หลังเกิดกระเเสดราม่า เที่ยวอัฟกานิสถาน
"ตอนนั้นมิ้นท์ถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหิน มันเป็นครั้งแรกที่รู้จักกับความเลวร้าย" เธอได้เล่าประสบการณ์ถูกไล่ออกจากที่พักให้ฟัง ซึ่งทำให้เธอกลัวการเดินทางคนเดียวไปพักใหญ่เธอกล่าวว่า เวลาเดินทางคนเดียวเราไม่มีแผนบี มีแต่ตัวเราที่เป็นแผนเอ ไม่มีคนช่วย เวลามีปัญหาอะไร เราก็ต้องจัดการเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น ซึ่งทักษะการเอาตัวรอดและการแก้ปัญหาจะเก่งขึ้นเมื่อเดินทางไปเรื่อยๆ เพราะเราจะได้เรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาและรู้ว่าอะไรคือถูกหรือผิด
มิ้นท์เดินทางทุกเดือนมาตลอด 4 ปี จนรู้สึกอยากหาสิ่งที่ท้าทายกว่าและยากกว่า ตอนนี้เธอจึงหันมาปีนเขา กิจกรรมท้าทายที่ทำให้ไม่ต้องเดินทางคนเดียว
ชีวิตคือความท้าทาย เธอกล่าวเช่นนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหาที่ที่มันยากขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างล่าสุดเธอเพิ่งกลับมาจากเขา "ซีกู่เหนียง" ประเทศจีน จุดหมายที่เธอยกให้ "โหด"ที่สุดในชีวิต
"เป็นครั้งแรกที่รู้จักกับความกลัว" ทริปปีนเขาซีกู่เหนียงทำให้เธอถึงขั้น "ผิดหวัง" ในตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมความกลัวได้ ซึ่งเรื่องราวครั้งนั้นถูกเผยแพร่ไปในเพจ I Roam Alone เป็นที่เรียบร้อย กล่าวโดยสังเขปคือ เธอได้เดินทางไปพิชิตยอดเขายอดที่ 3 ของซีกู่เหนียงพร้อมกับนักปีนเขามืออาชีพ ประเด็นอยู่ที่ต้องออกเดินตั้งแต่ตี 2 ครึ่ง บนความสูง 4,000 ม. จากระดับน้ำทะเล ท่ามกลางความหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส บนทางเดินที่กว้างพอดีแค่เท้า เธอเป็นคนกลัวความสูงและความมืด การเดินจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เธอพยายามต่อสู้กับความกลัว แต่สำหรับประสบการณ์ครั้งแรกทำให้เธอใจเสียและกลัวมาก
กิจกรรมปีนเขาต้องมีทีมที่ดี เพราะมันคือชีวิต มันคือความเสี่ยงต่อความตาย และมันคือความช่วยเหลือกันและกันระหว่างทาง และด้วยความเสี่ยงกับชีวิตทำให้เธอเรียนรู้ชีวิต เธอกล่าวว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะก้าวพลาด แล้วเราก็หล่น และเราก็ตาย ดังนั้นเราต้องรู้ตัวว่าเมื่อไรต้องถอย กลับมาเริ่มต้นใหม่ ล้มแล้วลุก อีกทั้งมันยังทำให้เธอต่อสู้กับสัญชาตญาณ ทำให้จิตใจเข้มแข็งมากขึ้น และรู้จักใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น
จริงอยู่ที่การปีนเขาต้องมีทีม แต่การเดินทางท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนร่วมทางเสมอไป เธอกล่าวด้วยว่า การหาเพื่อนเที่ยวที่ชอบเหมือนกันกับเราทุกอย่างมันลำบาก ส่วนใหญ่แล้วเวลาไปกับเพื่อนเราก็จะทำตามอย่างที่เพื่อนอยากทำ ซึ่งการจะรู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร "เราต้องเดินทางคนเดียว" เธอยกตัวอย่างตัวเอง สมัยก่อนเธอคิดว่าตัวเองชอบเข้าพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นเด็กจากคณะอักษรศาสตร์ แต่พอได้เดินทางคนเดียวจึงรู้ว่ามันไม่ใช่กิจกรรมที่เธอชอบ มันทำให้เธอรู้ว่าตัวตนจริงๆ เป็นแบบไหน กลัวอะไร เธอได้วิจารณ์สังคมออนไลน์สมัยนี้ด้วยว่าเป็นยุคที่ไม่มีใครจะนั่งนิ่งๆแล้วคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำไปอีกแล้ว แต่การเดินทางมันทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้คิดย้อนกลับไปว่าเวลาเราเดินทางมาถึงจุดนี้ มันเป็นจุดที่เราชอบแล้วหรือยัง มีอะไรที่เราอยากทำอีกไหม และความสุขของเราคืออะไร
ความสุขของเธอคือ I Roam Alone หมายถึง การเดินทางคนเดียวและเป็นแรงบันดาลใจให้หญิงสาวกล้าออกเดินทาง ข้ามพ้นข้อจำกัดในชีวิตอย่างที่เธอเคยผ่านมาแล้ว