โซเชียลถกยับ หลัง รมต.ท่องเที่ยวฯ ทุ่ม200ล้าน ดึงตัวลิซ่าBLACKPINKเคาท์ดาวน์ในไทย
ไอเดียนำลิซ่ามาเมืองไทยเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ถ้าคิดเป็นมูลค่าโฆษณา คุ้มมากค่ะ ปกติหน่วยงานการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆจะมีงบประชาสัมพันธ์แล้วก็เอาไปถ่ายทำซื้อพื้นที่โฆษณาออกช่องโทรทัศน์ต่างประเทศบ้างอยู่แล้ว เงินจำนวนเท่ากันเทียบกับการจ้างลิซ่าแล้วเกิด PR values จากสื่อที่ติดตามลิซ่าและแฟนคลับที่จะต่อยอดไปอีกมหาศาล ย่อมคุ้มกว่าโฆษณารูปแบบอื่นมากอยู่แล้ว แต่จะปั่นขึ้นไปได้ระดับไหนอยู่ที่การออกแบบโปรแกรม เช่นถ้าดีลให้ลิซ่าทำ vlog ไปลงใน YouTube channel ของตัวเองได้ด้วย จะยิ่งได้ผลไปอีกไกล ซึ่งตรงนี้น่าจะเจรจาได้ ปกติบางทีไปเที่ยวไหนนานๆทีเขาก็ทำอยู่แล้ว และมันจะได้ผลระยะยาว ไม่ใช่แค่ฤดูท่องเที่ยวปีนี้
หัวใจจึงอยู่ที่จะดีลมาได้ไหมในเวลาที่เหลือแค่นี้ และการดีลกับ YG ก็ยากมากๆด้วย ถ้าได้มาจริงๆก็อยู่ที่การออกแบบแคมเปญทั้งหมดจะเก็บได้แค่ไหน(ในแง่ branding ประเทศ จะมีอีกหลายส่วนได้อานิสงส์ไปด้วยนอกจากการท่องเที่ยว อย่างตอนนี้แม้ยังไม่ได้จ้าง ตัว MV Lalisa เองก็ทำให้แฟชั่นแบรนด์ไทยได้รับความสนใจลงสกู๊ปสื่อระดับท้อปทั่วโลกไปมากแล้ว) งานนี้ถ้าทำได้จริงๆไม่มีเสีย มีแต่จะคุ้มเฉยๆหรือคุ้มสุดๆเท่านั้น ปกติลิซ่าเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณามือถือ เสื้อผ้า เครื่องเขียน คนจ้างยังคิดว่าคุ้ม
ดังนั้น "Devil is in the details." หมายความว่าจะปังหรือจะพังอยู่ที่การออกแบบรายละเอียดจริงๆ และถ้าไม่ทันคราวนี้อย่าฝืน ยังมีโอกาสในอนาคต ต้องมองว่านี่เป็นแผนประชาสัมพันธ์แบรนด์ไทยแลนด์ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวไทย และเป็นเรื่องเพื่อผลระยะยาว ไม่ใช่แค่งานเคาท์ดาวน์ค่ะ
หลังจากนั้นต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งโยงเข้าเรื่องการเมืองหรือบอกว่าควรนำเงินจำนวนดังกล่าว จัดซื้อวัคซีนแจกคนในประเทศดีกว่า จนจุดกระแสดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง