หมอมานพ ให้ความรู้8ข้อ วัคซีนmRNaบูสเตอร์ เพื่อรับมือโอมิครอน
Q1. ใครควรได้รับ mRNA vaccine เป็นเข็มกระตุ้น (booster shot)?
A1. ข้อมูลพบว่าผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนสองเข็มรับมือ Omicron ไม่ได้
ข้อมูล UK พบว่า Pfizer x2 ป้องกันป่วยได้ 30-40% (Moderna x2 อาจไม่ต่างกัน) ส่วน AZ x2 กันไม่ได้ วัคซีนอื่นคงไม่ต่าง กันไม่ได้ ดังนั้นทุกคนควรได้ booster
Q2. ควร boost ด้วยวัคซีนชนิดใด
A2. ข้อมูลปัจจุบันพบว่าชนิดวัคซีนที่มีผลทดสอบในแลป และผลการศึกษาทางคลินิกว่ารับมือได้ มีเพียง mRNA vaccine (Pfizer & Moderna)
Q3. ควร boost เมื่อไหร่
A3. คำแนะนำจาก UK ผู้ใหญ่ทุกคนที่ได้วัคซีนครบแล้ว 3 เดือนสามารถรับ booster ได้เลยแต่ให้ priority ผู้ที่ได้วัคซีนมานานและกลุ่มเสี่ยงก่อน สำหรับ Denmark แนะนำที่ 4.5 เดือน ส่วนประเทศอื่นคงแนะนำที่ 6 เดือน (ประเทศเหล่านี้ใช้ AZ และ mRNA เป็นวัคซีน 2 เข็มแรก)
A4. ข้อมูลทดสอบจากแลปพบว่า mRNA vaccine booster ทั้งคู่กระตุ้น antibody ได้สูงมากพอในการรับมือ Omicron แม้ระดับ antibody จาก Moderna จะสูงกว่า
เลือกอะไรก็ได้ ดีทั้งคู่
Q5. Moderna มี 2 ขนาดคือ 50 และ 100 μg ควรเลือกอะไร
A5. ข้อมูลทดสอบกับ 50 μg พบว่ากระตุ้น antibody ได้สูงเพียงพอ แต่ขนาด 100 μg กระตุ้น antibody ได้สูงกว่า ข้อมูลการศึกษาจากหลายกลุ่มวิจัยพบว่าฉีด 100 μg ผลข้างเคียงไม่สูงกว่า 50 μg
บ้านเราตอนนี้มีเฉพาะ 100 μg
Q6. ฉีด booster เข็ม 3 แล้ว จะฉีดเข็ม 4 เมื่อไหร่
A6. บอกไม่ได้ ยังไม่มีผลการศึกษาออกมาชัดเจน ประเทศอิสราเอลซึ่งฉีด Pfizer booster เป็นประเทศแรกเริ่มปลาย กค ผ่านมาไม่ถึง 5 เดือน ต้องรอดูข้อมูลต่อไป โดยเฉพาะข้อมูลต่อ Omicron
Q7. บ้านเราส่วนใหญ่ได้วัคซีน 2 เข็มแรกไม่เหมือนประเทศอื่น ฉีด mRNA booster เข็ม 3 จะกัน Omicron ได้ไหม
A7. ข้อมูล UK พบว่าคนที่ได้ AZ x2 + mRNA booster ป้องกัน Omicron ได้ 70% ด้อยกว่า Pfizer x2 + mRNA booster ที่ได้ 76% ไม่มากนัก คิดว่าประสิทธิผลไม่ต่างนัก สำคัญที่ booster
Q8. วัคซีนอื่นใช้เป็น booster รับมือ Omicron ได้ไหม
A8. ไม่มีข้อมูล ที่ผ่านมาเห็นชัดว่า Omicron ดื้อมาก ต้องการระดับ antibody สูงมากในการรับมือ วัคซีนที่สามารถกระตุ้น antibody ได้สูงมากพอมีเพียง mRNA vaccine (Pfizer และ Moderna)