
ชูวิทย์ เผยสิ่งที่เลือกทำเมื่อเข้าสู่วัยชรา ฟังแล้วต้องปรบมือให้
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล เป็นข่าว ชูวิทย์ เผยสิ่งที่เลือกทำเมื่อเข้าสู่วัยชรา ฟังแล้วต้องปรบมือให้

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงเรื่องราวชีวิตตนเองที่เดินทางมาถึงช่วงวัยแห่งความแก่ชรา เผยของดวิจารณ์การเมืองใดๆ เดินหน้าทำบุญใหญ่คืนกำไรให้สังคมแบบหลากหลาย เช่น บริจาคทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนทั่วประเทศในถิ่นทุรกันดาร ต่อมาสร้างป้อมจราจร ให้ทั่วกรุงเทพฯ และล่าสุดมอบรถขนร่างอาจารย์ใหญ่ ให้กับ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นแห่งที่ 2 หลังเคยมอบให้กับ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มาแล้ว และยังมีเป้าหมายจะมอบให้กับอีกหลายๆที่

โดยนายชูวิทย์โพสต์ว่า
เมื่อเข้าวัยแก่ชรา สังขารร่วงโรย นั่งก็โอย ลุกก็โอย บางคนเลือกเข้าวัดฟังธรรม จิตใจสงบผ่องใส บางคนกิเลสครอบงำ อายุปูนนี้จะไปได้สักกี่น้ำ? ควรให้คนรุ่นใหม่ทำงานเพื่อบ้านเมืองเสียดีกว่า ส่วนผมวันนี้ ของดวิจารณ์การเมืองใดๆ
เมื่อ 30 ปีก่อน ผมตั้ง มูลนิธิ ต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ บริจาคทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนทั่วประเทศในถิ่นทุรกันดาร ต่อมาสร้างป้อมจราจร ให้ทั่วกรุงเทพฯ จนบัดนี้ ล่วงเลยผ่านไปตามกาลเวลา
ผู้ที่เคยแนะนำว่า ผมควรคืนกำไรให้กับสังคมบ้าง คือผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ที่ยังคบหากันมาจนบัดนี้ วันนี้ ผมจึงมามอบรถขนร่างอาจารย์ใหญ่ ให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นแห่งที่ 2 หลังจากที่มอบให้ไปแล้วคันแรกที่ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เป้าหมายต่อไปคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี และ โรงพยาบาลตำรวจ
คนทั่วไปอาจสงสัยว่าทำไมผมเลือกบริจาคให้ในเรื่องนี้ ทำไมไม่บริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย?
ขอบอกว่า ต้นเหตุมาจากตอนผมติดคุก ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยงานในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เก็บศพนักโทษที่เสียชีวิตในคุก ถึง 80 ศพ จึงได้เห็นทุกขเวทนาของคนตายในขณะที่ไร้อิสรภาพ และไม่มีญาติพี่น้อง ผมมีหน้าที่นำศพนักโทษทั้งชาย และหญิง รอส่งออกไปสู่อิสรภาพในสภาพไร้วิญญาณ โดยมักจะให้ผู้คุมพูดเป็นเคล็ดว่า "ปล่อยตัวกลับบ้านแล้วนะ" เพื่อไม่ให้ดวงวิญญาณตกค้างในสภาพถูกพันธนาการ
เมื่อมีโอกาสจึงใช้กำลังทรัพย์เท่าที่มี ให้เป็นเงินบ้าง หรือเป็นรถขนร่างอาจารย์ใหญ่บ้าง โดยเน้นไปที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศพคนตาย ร่างอาจารย์ใหญ่ ที่เมื่อตายไปแล้วยังได้เป็นวิทยาทานให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาเรียนรู้ถือเป็นคุณประโยชน์มหาศาล การแพทย์ไทยก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภาควิชานี้ แม้แต่ฝรั่งมังค่ายังถึงกับต้องมาดูงานที่ไทย เพราะฝรั่งไม่ยอมบริจาคร่างกาย จึงไม่มีของจริงให้ศึกษา
ฝากสุภาษิตประจำใจขององคุลีมาลชูวิทย์ เมื่อชีวิตมาถึงจุดตกต่ำ อย่ายอมแพ้ "ชีวิตกับสู้ มันของคู่กัน ชีวิตที่ไม่สู้ คือชีวิตที่ไร้รสชาติ" คนเราตายทุกคน ที่สำคัญก่อนตายต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอ
บุญกุศลทั้งหมดนี้ ขอมอบให้คนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากทุกท่านครับ
เมื่อเข้าวัยแก่ชรา สังขารร่วงโรย นั่งก็โอย ลุกก็โอย บางคนเลือกเข้าวัดฟังธรรม จิตใจสงบผ่องใส บางคนกิเลสครอบงำ อายุปูนนี้จะไปได้สักกี่น้ำ? ควรให้คนรุ่นใหม่ทำงานเพื่อบ้านเมืองเสียดีกว่า ส่วนผมวันนี้ ของดวิจารณ์การเมืองใดๆ
เมื่อ 30 ปีก่อน ผมตั้ง มูลนิธิ ต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ บริจาคทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนทั่วประเทศในถิ่นทุรกันดาร ต่อมาสร้างป้อมจราจร ให้ทั่วกรุงเทพฯ จนบัดนี้ ล่วงเลยผ่านไปตามกาลเวลา
ผู้ที่เคยแนะนำว่า ผมควรคืนกำไรให้กับสังคมบ้าง คือผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ที่ยังคบหากันมาจนบัดนี้ วันนี้ ผมจึงมามอบรถขนร่างอาจารย์ใหญ่ ให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นแห่งที่ 2 หลังจากที่มอบให้ไปแล้วคันแรกที่ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เป้าหมายต่อไปคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี และ โรงพยาบาลตำรวจ
คนทั่วไปอาจสงสัยว่าทำไมผมเลือกบริจาคให้ในเรื่องนี้ ทำไมไม่บริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย?
ขอบอกว่า ต้นเหตุมาจากตอนผมติดคุก ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยงานในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เก็บศพนักโทษที่เสียชีวิตในคุก ถึง 80 ศพ จึงได้เห็นทุกขเวทนาของคนตายในขณะที่ไร้อิสรภาพ และไม่มีญาติพี่น้อง ผมมีหน้าที่นำศพนักโทษทั้งชาย และหญิง รอส่งออกไปสู่อิสรภาพในสภาพไร้วิญญาณ โดยมักจะให้ผู้คุมพูดเป็นเคล็ดว่า "ปล่อยตัวกลับบ้านแล้วนะ" เพื่อไม่ให้ดวงวิญญาณตกค้างในสภาพถูกพันธนาการ
เมื่อมีโอกาสจึงใช้กำลังทรัพย์เท่าที่มี ให้เป็นเงินบ้าง หรือเป็นรถขนร่างอาจารย์ใหญ่บ้าง โดยเน้นไปที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศพคนตาย ร่างอาจารย์ใหญ่ ที่เมื่อตายไปแล้วยังได้เป็นวิทยาทานให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาเรียนรู้ถือเป็นคุณประโยชน์มหาศาล การแพทย์ไทยก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในภาควิชานี้ แม้แต่ฝรั่งมังค่ายังถึงกับต้องมาดูงานที่ไทย เพราะฝรั่งไม่ยอมบริจาคร่างกาย จึงไม่มีของจริงให้ศึกษา
ฝากสุภาษิตประจำใจขององคุลีมาลชูวิทย์ เมื่อชีวิตมาถึงจุดตกต่ำ อย่ายอมแพ้ "ชีวิตกับสู้ มันของคู่กัน ชีวิตที่ไม่สู้ คือชีวิตที่ไร้รสชาติ" คนเราตายทุกคน ที่สำคัญก่อนตายต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอ
บุญกุศลทั้งหมดนี้ ขอมอบให้คนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากทุกท่านครับ

เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว