เมียติดกล้องจับผิดผัว แต่คนร้าย เป็นคนที่เคยไว้ใจ
แทบเป็นลม เงินเก็บในตู้เซฟหายเกลี้ยง 5 ล้านบาท เมียสงสัยติดกล้องจับผิดผัว สุดท้ายพลิก คนร้ายเป็นคนที่เคยไว้ใจ
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า ภรรยาชาวจีนรายหนึ่งนำเงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงจากการทำธุรกิจตลอด 4 ปี เก็บไว้ในตู้เซฟในล้านกว่า 1 ล้านหยวนหรือราว 5 ล้านบาท ก่อนพบเงินหายเกลี้ยง รีบแจ้งความ ก่อนไม่พบร่องรอยคนร้าย จึงอดสงสัยสามีไม่ได้ สุดท้ายพลิกคนขโมยเป็นผู้หญิง
ตามรายงานเผยว่า ภรรยารายนี้อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเงินเก็บกว่า 5 ล้านบาทหายไปจากบ้าน เธอยืนยันว่ามีเพียงตนเองและสามีเท่านั้นที่มีกุญแจบ้าน และยืนยันไม่เคยมีใครรู้เรื่องทรัพย์สินในตู้เซฟแน่นอน
หากจะมีคนที่มาบ้านเป็นประจำก็คือ แม่บ้านที่มีหน้าที่ทำความสะอาด ภายหลังตำรวจตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยของการก่ออาชญากรรม เธอจึงไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย
ด้านภรรยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย "สามี" โดยก่อนหน้านั้นเธอเคยถามสามีตรงๆ แต่เขายืนยันว่าไม่เคยแตะต้องเงินในตู้เซฟเลย ในเวลาเดียวกันเธอก็นึกขึ้นถึงวิธีจับโจร จึงได้แอบติดกล้องไว้ในบ้าน โดนซ่อนไว้ในที่ลับสายตา แต่ส่องไปทางตู้เซฟพอดิบพอดีพร้อมนำเงินไปใส่ไว้ล่อคนร้าย หวังว่าจะจับได้คาหนังคาเขาจากหลักฐานจากภาพวงจรปิด แต่กลายเป็นว่าเมื่อเงินหายไปอีกครั้ง และตรวจพบว่า "กล้องพัง" ไม่สามารถจับภาพที่เป็นประโยชน์ได้ เรื่องนี้ยิ่งทำให้เธอสงสัยมากขึ้นว่าสามี คือ ผู้อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง
โดยจากคำให้การของผู้เป็นสามี เผยว่า วันที่เงินถูกขโมยเขาอยู่บ้านจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นคนเอาเงินไป แค่จงใจอยู่บ้านเพื่อดูว่าใคร คือ คนร้าย จากนั้นเขาได้ยินเสียงคนเปิดประตูจึงรีบวิ่งไปดู แต่เพราะกลัวมาก จึงรีบล็อกประตูและมองผ่านช่องตาแมวต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เช็กภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งเป็น อดีตพี่เลี้ยงเด็ก ที่เคยทำงานกับพวกเขาเมื่อไม่กี่ปีก่อน โดยคนร้ายเฝ้าดูกิจวัตรประจำวันของสามีภรรยา จนมั่นใจว่าทุกวันพุธทั้งคู่จะบินไปเซี่ยงไฮ้ และจะไม่อยู่บ้านในวันพฤหัสบดี
โดยคนร้ายอาศัยจังหวะที่พวกเขาไม่อยู่ ใช้กุญแจเปิดเข้าไปขโมยเงิน ก่อนจะขึ้นเครื่องหนีกลับบ้านเกิดในเสฉวนใช้เงินที่ขโมยมาสร้างบ้านหลังใหม่ และใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย
ทั้งนี้ หลังจากถูกจับกุมตัวคนร้าย ได้ยอมรับสารภาพ โดยเธอต้องชดใช้เงินที่ขโมยมา และได้รับโทษจำคุกอีกด้วย