ดร.สุเมธ เล่าว่า
" ครั้งหนึ่ง ผมพยายามจะแอบดูว่าพระองค์ท่านใส่นาฬิกายี่ห้ออะไร จนพระองค์ท่านรู้สึกได้ว่าผมพยายามอยากจะดูยี่ห้อ ..
.
" ท่านจึงยื่นข้อพระหัตถ์มาให้ดูตรงหน้า จึงทราบว่าพระองค์ ท่านใส่นาฬิการาคาเพียงเรือนละ ๗๕๐ บาทเท่านั้น ซึ่งก็เดินตรงเหมือนกันกับนาฬิกาเรือนแพง แม้กระทั่งฉลองพระองค์ก็ทรงมีไม่กี่ชุด ทรงใช้จนเปื่อยซีด แต่พวกเรามักคิดว่า การมีแบบเหลือกินเหลือใช้จึงจะดี เพราะคนสมัยนี้เริ่มไม่เอา ‘เกษตรกรรม' แต่เลือกที่จะทำ ‘อุตส่าหากรรม' (-เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นเอง แทนคำว่า อุตสาหกรรม) สุดท้าย อนาคตก็จะอดกิน .. "
ดร.สุเมธ ถามอีกว่า
" คนในห้องนี้มีรองเท้ากันคนละกี่คู่? -ก็มีสตรีนักธุรกิจตอบว่า ๑๐๐ กว่าคู่ .. "
ดร.สุเมธ จึงถามว่า
" แล้ววันนี้ใส่มากี่คู่? -ถ้าจะใช้ให้คุ้ม ทำไมไม่เอาแขวนคอมาด้วย "
ก่อนที่จะบอกว่า
" พระองค์ทรงฉลองพระบาทคู่ละ ๓๐๐ - ๔๐๐ บาท อีกทั้งฉลองพระบาทของพระองค์ ยังถูกนำส่งไปซ่อมแล้วซ่อมอีก ขณะที่ข้าราชบริพารใส่รองเท้าคู่ละ ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ บาท แต่เวลาพระองค์ทรงออกเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ที่สุดแล้ว ข้าราชบริพารก็เดินตามพระองค์ไม่ทันอยู่ดี .. "
พระองค์ท่าน จะตรัสว่า
" เวลาเดิน คนเราใส่รองเท้าได้คู่เดียว "