เลิ่กลั่ก!! พี่ดี้ เชื่อ! คดีแพรวา 9 ศพ หากแสดงความจริงใจต่อเหยื่อ! สังคมคงไม่ด่าแรงขนาดนี้
" สมัยก่อน...ฉันอึดอัดใจมาก...เวลาขับรถไปเฉี่ยวชนกับใคร...แล้วประกันมักจะสอนว่า อย่ายอมรับผิด...อย่าคุย อย่าขยับรถ ฯลฯ
คือ...บางทีเราผิดพลาดเอง รู้อยู่แก่ใจ ออกมาจากซอยไปชนรถเขาที่เป็นทางเอก...จะทำหน้ามึน...เหรอ แล้วก็จอดรถให้ค้างถนนอยู่ยังงั้น...รถติดชิบหายวายป่วง...คนอื่นเดือดร้อน เพื่อจะโทรเรียกประกันมา...รอตำรวจมาฉีดสีกระป๋องที่พื้น...
สมัยนั้น...ถ้าฉันรู้ตัวว่าผิด...ฉันก็จะเขียนเบอร์โทรให้เจ้าของรถคู่กรณีเลย...แล้วรีบแยกย้าย ไม่ให้รถชาวบ้านเขาเดือดร้อน...ประกันฉันจะจ่ายไม่จ่าย เดี๋ยวฉันทะเลาะกับประกันฉันเอง...อย่างมากก็โดนเบี้ยประกันเพิ่มในปีหน้า...สมัยนี้อาจจะง่ายขึ้นหน่อย..เพราะมีกล้องติดรถกัน...รู้ใครผิดใครถูกง่ายหน่อย...
กรณีแพรวา...จำเลยที่หนึ่ง พ่อแม่ จำเลยที่สองสาม เพื่อนที่ให้ยืมรถ จำเลยที่สี่...ตามข่าว...อ่านสำนวนที่ฝ่ายจำเลยแถลงกลับ...มันต่อสู้กลับแบบจะเอาชนะอย่างเดียว ซึ่งก็ไม่ชนะ...และไร้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนายจำเลย น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้ บางทีอาจน่าจะเป็นจำเลยที่หนึ่งด้วยซ้ำ...
ไม่ได้บอกว่า แพรวา หรือพ่อแม่ ในตระกูลอะไรนั่นจะบริสุทธิ์สดใส แต่รู้สึกได้ว่า....จำเลยทั้งสี่...แพรวา พ่อ แม่ เจ้าของรถ...เป็นจำเลยที่เกิดจากความผิดพลาด ประมาท แต่รู้สึกได้ว่า....เวลารถชน...แล้วเราเชื่อที่ประกันสอน ว่า อย่ายอมรับผิด...ทนายความบางคนก็สอนแบบนั้นกับลูกความ...
ความเห็นส่วนตัวของฉันสำหรับเรื่องนี้...
แพรวา(หรือจะชื่ออะไรก็ตาม) ผิดตามศาลตัดสินแล้ว พ่อแม่ จะนามสกุลอะไรก็ตาม...ฉันคิดเองว่า ก็เหลียวซ้ายแลขวา พึ่งแต่ทนายความ ทนายบอกว่าไง ก็ทำตามนั้น...เลิ่กลั่ก....ยิ่งคุณพี่คนที่ให้แพรวายืมขับรถ...ยิ่งเหวอ....ต้องเป็นจำเลยด้วย..
ความผิดพลาดรุนแรงที่เกิดขึ้นกับข่าวนี้คือ...
ตัวแพรวาและพ่อแม่...ไม่แสดงอาการไยดีอะไรเลย...ตลอดหลายปีที่ผ่านมา....ซึ่งอันนี้ ความผิดทางใจสังคม....รุนแรงมาก คุณอาจไม่ต้องจ่ายเงินอะไรมาก ถ้าคุณแสดงความจริงใจไยดี เพราะผู้เคราะห์ร้าย เข้าใจดีว่ามันเป็นอุบัติเหตุ คุณไม่ไยดี คุณสู้ทุกศาล....คุณเชื่อทนายของคุณ เหมือนที่ฉันรถชนที่สี่แยก...รู้ว่าผิด แต่ประกันบอกว่า อย่ายอมรับนะ"