"เราเคยพูดแล้วว่า ให้ตั้งเป้าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ไม่เกินจากที่ควรเป็นเอาไว้ เช่น 50 คนต่อวัน ตราบใดที่กด curve ให้ต่ำกว่านั้นไว้ได้ด้วยมาตรการรักษาสุขอนามัยที่เป็นอยู่ ก็ดำเนินชีวิต ทำมาหากินกันไป
การที่มีการกำหนดข้อยกเว้นให้คนบางกลุ่มตามความจำเป็น(ทั่วโลกต้องมี) ก็มาจากหลักคิดแบบนี้แหละ คือรู้ว่ามีความเสี่ยง แต่เนื่องจากเป็นคนกลุ่มเล็ก ถ้ามีเชื้อมามันก็นิดเดียว ไม่เป็นปัญหากับการกด curve
แต่เพราะคุณไปเปลี่ยนเป้าหมายกลางทาง เหมือนกลัวไม่มีอะไรให้พูดเวลาแถลงข่าว ต้องขู่ให้กดตัวเลขจนเหลือศูนย์ ทุกวิธีการที่แวดล้อมมันเลยมีคำอธิบายไม่ได้ พอมีความผิดพลาดก็อธิบายให้คนฟังไม่ได้ ว่าทำไมกติกาที่ผ่อนปรนให้สิทธิพิเศษกับบางกลุ่มจึงมีอยู่แต่แรก เพราะมันกลายเป็นกติกาที่เป็นไปไม่ได้กับเป้าหมายใหม่ที่ไร้สติ อีกต่อไป
พูดง่ายๆว่า เมื่อตั้งเป้าไว้ที่ศูนย์ คุณจะผ่อนปรนอะไรไม่ได้อีกเลย"ตลอดชาติ" เพราะทุกการผ่อนปรนมีความเสี่ยงหมด ต่อให้มีวัคซีนแล้ว เชื้อก็กลายพันธ์ุได้ในวันรุ่งขึ้น .. แล้วรู้ตัวหรือไม่ เศรษฐกิจไทยอยู่ไม่ได้ในสภาพนี้
วันนี้ชาวบ้านจึงด่าว่า "ปล่อยเข้ามาทำไม" ทั้งที่มันไม่ควรเป็นปัญหาเลย แต่เพราะคุณประสบความสำเร็จในการทำให้เขาเชื่อว่าเป้าหมายเลขศูนย์ตลอดไปคือสิ่งที่ต้องเป็น คนไทยเสี่ยงติดเชื้อไม่ได้เลย ทั้งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่สมเหตุสมผลการอยู่กับไวรัสให้ได้โดยการปกป้องตัวเองและกลุ่มเสี่ยงตามสมควรคือสิ่งที่ต้องเป็น และมนุษย์เป็นแบบนั้นตลอดมากับทุกโรค ทั้งที่เบาและร้ายแรงกว่านี้
เมื่อยุทธศาสตร์เพี้ยน ตั้งเป้าหมายผิด
ที่เหลือจะเป็นความล้มเหลว.