วันที่ 5 ตุลาคม 2560 ตามแผนที่วางเอาไว้สำหรับ การวิ่งของ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" กับ โครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 รพ.ทั่วประเทศ นั่นคือ การวิ่ง 4 วัน และ หยุดพัก 1 วัน ซึ่งวันนี้ ก็จะต้องเป็นวันที่ทางด้าน ตูน จะต้องหยุดพัก ซึ่งล่าสุดนั้นทาง ตูน เอง ก็มีอาการบาดเจ็บจากปัญหาปวดหลัง ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทางด้าน "หมอเมย์" พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู กล่าวว่า จากเดิมแต่ละเซ็ตจะวิ่งประมาณ 1.40 ชม. ตอนนี้กลายเป็น 4 หรือ 6 ชม. จำนวนเซ็ตจะหายไป เวลาพักผ่อนน้อยลง การทำกายภาพบำบัดบางวันถูกยกเลิกไปด้วยความเพลีย การใช้กล้ามเนื้อทั้งวันมีความล้าสะสม เราซ้อมวิ่งแต่ไมได้ซ้อมเซลฟี่ ไม่ได้ซ้อมอุ้มเด็กขึ้นมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อ ยิ่งไปกระตุ้นโดยการก้ม การยก จึงส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการ วันนี้ก้มเหมือนไม่สบายหลัง ปวดหลัง จะใช้สเปรย์เย็นลดอาการปวด ปัญหาเรื่องปวดหลังน่าจะเป็นเรื่องการใช้งานกล้ามเนื้อค่อนข้างหนักและต่อเนื่อง ดังนั้นต้องระวังการบิดเอี้ยวตัว การก้มตัว การยกของหนักจากข้างลางขึ้นมา แต่พี่ตูนทนความน่ารักเด็กตัวเล็ก ๆไม่ไหว ก็ต้องมีท่าอุ้มใหม่ ต้องย่อลงไป จะก้มตัวยกขึ้นมาไม่ได้ ดังนั้นขอให้มาพบตรงจุดเช็กพอยท์รบกวนอุ้มลูกหลานไว้เลยจะช่วยเซฟหลังพี่ตูน รวมทั้งลดการเซลฟี่ก็ดี
ขณะที่ทาง นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ "ตูน บอดี้สแลม" ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ว่า ดีใจที่วันหนึ่งเงินบริจาคเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ล้านบาท แต่ว่ามันก็ยังห่างกับที่เราตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท ก็ไม่เป็นไรค่อย ๆคิดค่อย ๆ ทำ เราทำไปเรื่อยๆ คนน่าจะรับรู้มากขึ้น 3-4 วันที่ผ่านมาเห็นคนไทย คนไทยมุสลิมออกมาให้กำลังใจ ทุกคนออกมาบริจาค ลูกเด็กเล็กแดงออกมา มันสวยงาม ไม่มีความคิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้ในจังหวะที่เรามาเริ่มต้นที่เบตง มันได้สร้างมิติความสุข มิติรอยยิ้มให้กับคนในพื้นที่ ที่เขาอาจจะห่างหายจากเรื่องพวกนี้ ไม่ได้มีกิจกรรมแบบนี้ให้ร่วมกันทำ
ขณะที่ล่าสุดนั้นยอดบริจาค อยู่ที่ 73 ล้านบาท ในขณะที่เพจดัง Drama-addict ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ตูน นั่นก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นหากพี่ตูน วิ่งมาแล้วมีคนขวางให้หยุดวิ่งทันทีเพื่อขอเซลฟี่ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นและ แชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก