“จาตุรนต์” ชี้ แผนวัคซีนล่มแล้ว แย้ม วิกฤตใหญ่กำลังมา!
แต่วงการแพทย์ก็พบว่าซิโนแวค ทำให้เกิดภูมิต้านทานไวรัสชนิดสายพันธุ์ต่างๆ ได้ไม่ดี ล่าสุดประชาชนก็ไม่ยอมรับและไม่ยอมฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้กันแล้ว เท่ากับเราอาจไม่สามารถใช้วัคซีนซิโนแวค 30 กว่าล้านโดสนี้ตามแผนได้แล้ว
"ข้อแรก" คือ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมให้รัฐมนตรีช่วยฯ มาชี้แจงแทนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ หรือนายกรัฐมนตรี
"ข้อที่สอง" รมช.สาธารณสุข บอกว่า ที่ทำสัญญากันไว้ไม่ได้กำหนดเวลาส่งมอบ ซึ่งก็แปลกประหลาดอีก และที่ขยายเวลาไปจนถึง พ.ค.65 ก็ไม่มี timeline ว่าจะส่งมอบเดือนไหนและจำนวนเท่าไหร่
คำนวณคร่าวๆ ก็อาจเป็นไปได้ว่าในปีนี้ แอสตราเซเนกา คงส่งมอบวัคซีนได้ประมาณครึ่งหนึ่งหรือ 30 ล้านโด๊ส จนถึงป่านนี้ยังไม่มีใครในรัฐบาลออกมาบอกว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง ?
แต่เมื่อไม่ได้กำหนดในสัญญาว่าจะต้องส่งมอบภายในเมื่อไหร่ ก็ไม่ทราบจะฟ้องว่ายังไง หากฟ้องได้ก็ไม่ทราบว่าฟ้องแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แอสตราเซเนกาก็คงไปไล่เบี้ยเอากับ สยามไบโอไซเอนซ์ ถ้าจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้รัฐบาลไทยก็คงต้องไปบังคับให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์จ่ายเงินให้รัฐบาล แล้วถ้าสยามไบโอไซเอนซ์ไม่มีเงิน จะมีอยู่ 600 ล้านบาทก็เป็นเงินที่รัฐบาลให้ไป
กลายเป็นสยามไบโอไซเอนซ์ตกเป็นตัวประกันของเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ทางออกในเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นรัฐบาลจะหาวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดได้อย่างไรมากกว่า เมื่อรวมวัคซีนซิโนแวค 30 กว่าล้านโดสที่มีปัญหากับแอสตราเซเนกาที่ถูกเลื่อนออกไปอีกประมาณ 30 ล้านโด๊ส หมายความว่าในปี 64 นี้เราจะขาดวัคซีนไปประมาณ 60 ล้านโดส ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เท่ากับแผนการฉีดวัคซีนของรัฐบาลล่มแล้ว
สิ่งที่รัฐบาลต้องรีบทำด่วนที่สุดก็คือการหาวัคซีน 60 ล้านโดสมาแทนวัคซีนที่ขาดไป และถ้ายังไม่พอที่จะควบคุมการแพร่ระบาดและเปิดประเทศได้ ก็อาจต้องหาวัคซีนมาให้มากกว่านั้นด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. เจรจากับแอสตราเซเนกาและสยามไบโอไซเอนซ์ว่าจะช่วยกันแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง
2. เข้าร่วมโครงการ COVAX เพื่อขอความร่วมมือช่วยเหลือในการหาวัคซีนโดยอาจเริ่มจากการขอแลกวัคซีนอื่นกับซิโนแวค 30 ล้านโดสซึ่งสามารถใช้ในประเทศที่ไม่มีสายพันธุ์แรงๆ หรือรัฐบาลไทยอาจจะบริจาควัคซีนนี้ให้ประเทศยากจนไป แล้วขอให้ COVAX ช่วยหาช่องทางในการซื้อวัคซีนอื่นให้
3. รัฐบาลลงมือประสานติดต่อกับประเทศต่างๆ ที่มีวัคซีนคุณภาพ โดยใช้ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีต่อกัน ทั้งระหว่างรัฐต่อรัฐ รัฐกับเอกชนและเอกชนกับเอกชน รวมทั้งช่องทางทางธุรกิจเพื่อซื้อวัคซีนคุณภาพมาให้ได้มากที่สุดเร็วที่สุด วิธีนี้น่าจะได้วัคซีนมากกว่าที่ภาคเอกชนไทยทำอยู่อีกมาก
4.สั่งให้ อย. เป็นฝ่ายริเริ่มทำงานเชิงรุกรับรองวัคซีนคุณภาพยี่ห้อต่างๆ ให้มากขึ้นโดยเร็ว และรัฐบาลสนับสนุนให้ภาคเอกชนและหน่วยงานของรัฐนำเข้าวัคซีนคุณภาพเข้ามาได้โดยไม่จำกัดว่าจะซ้ำกับที่รัฐบาลนำเข้าหรือไม่ สั่งให้หน่วยงานของรัฐหยุดทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางภาคเอกชนและหันมาสนับสนุนให้บริการภาคเอกชนและประชาชน